Tuesday, December 13, 2016

โรคโลหิตจาง หรือ ธาลัสซีเมีย

โรคโลหิตจาง หรือ ธาลัสซีเมีย



โรคโลหิตจาง หรือ ธาลัสซีเมีย ถ้าไม่รีบรักษาก็มีสิทธที่จะกลายเป็น ลูกิเมีย หรือถ้าปล่อยทิ้งก็สามารถที่จะกลายเป็นโรคมะเร็งไขกระดูก หรือ HLE ที่เป็นกัน หลักการง่ายๆเลย ให้ทานผักมากๆ ประมาณวันละ สอง กิโลขึ้น ขั้นต่ำ ทานต่อเนื่องประมาณ หกเดือน เวลานอน ก็ควรนอนหมอนต่ำๆ อาการต่างๆก็จะดีจนหายขาด แต่มีข้อแม้ว่า ผักดิบต้องล้างให้สะอาดไม่มีสารตกค้างหรือ ยาฆ่าแมลง ผักดิบที่ดีทีสุดคือ ใบมะม่วงหิมมะพาน เป็นผักที่มีรสฝาด มีสารอาหารหลายอย่างที่ทำให้เรามีภูมิคุ้มกันทีสามารถฟื้นฟูร่างกายได้เป็นอย่างดีค่ะ

Monday, December 5, 2016

ดูแลตัวเองอย่างไร...เมื่อเป็นโรคโลหิตจาง

โลหิตจางเป็นความผิดปกติของเลือดที่พบได้บ่อยที่สุด

โรงพยาบาลหลายแห่งกำลังขาดแคลนเลือด ซึ่งทีมงามอีแมกกาซีนก็พร้อมที่จะช่วยเหลือสังคม แต่ทว่าหนึ่งสาวในทีมของเรากลับไม่สามารถบริจาคเลือดได้ แม้ว่าเธอจะดูแลร่างกายและพักผ่อนนอนหลับอย่างเพียงพอแล้วก็ตาม โดยคุณหมอได้ให้เหตุผลว่า เธอมีอาการของโลหิตจาง ซึ่งวันนี้เราคุณผู้อ่านมาทำความรู้จักกับโรคที่ว่านี้กัน





ภาวะโลหิตจาง (Anemia) เป็นโรคทางโลหิตวิทยาที่พบบ่อยที่สุด โดยเกิดจากการมีจำนวนเม็ดโลหิตแดงน้อยหรือมีการทำงานที่ผิดปกติ สีของเม็ดเลือดแดงมาจากฮีโมโกลบิล ซึ่งเป็นสารประกอบที่มีธาตุเหล็กเป็นตัวนำออกซิเจน

Sunday, December 4, 2016

โลหิตจาง ภัยเงียบที่ต้องรับรู้

หากท่านพบว่ามีอาการเหล่านี้ เช่น อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ไม่มีเรี่ยวแรง เยื่อบุตา หรือริมฝีปากซีด ให้สงสัยว่าอาจมีภาวะโลหิตจางเกิดขึ้น ควรรีบปรึกษากับแพทย์เพื่อวินิจฉัย และได้รับการตรวจร่างกายอย่างละเอียด เพื่อหาสาเหตุว่าเกิดจากอะไร หากไม่ใส่ใจ และปล่อยทิ้งไว้จนเป็นมาก อาจจะก่อให้เกิดอันตรายถึงแก่ชีวิตได้

โลหิตจาง หรือภาวะซีด หมายถึง การที่มีปริมาณเม็ดเลือดแดงลดลงหรือระดับความเข้มข้นของเลือดลดลง ปัญหาโลหิตจางในประเทศไทยที่พบบ่อย ได้แก่
โลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก (Irondeficiency) พบได้บ่อยที่สุด มีสาเหตุจากการรับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กไม่เพียงพอ เช่น ไม่รับประทานอาหารโปรตีน ตับ เลือดหมู หรือมีการเสียเลือดทั้งชนิดเฉียบพลันและเรื้อรัง เช่น โรคพยาธิปากขอ ภาวะเลือดออกเรื้อรังในทางเดินอาหาร ริดสีดวงทวาร หรือสูญเสียเลือดมากผิดปกติทางประจำเดือน ในการป้องกันโรคโลหิตจางจากภาวะขาดธาตุเหล็ก สามารถป้องกันได้ด้วยการกินอาหารที่มีธาตุเหล็กมาก ได้แก่ เนื้อสัตว์ ตับหมู ตับวัว เลือดหมู นม ไข่ ผักใบเขียว และ ธัญพืช เช่น ถั่ว งา